วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ปลาทองหัวสิงห์ตันโจ



ราคา : 200 - 1500 บาท
ปลาทองหัวสิงห์ตันโจ
ปลาทองสายพันธุ์นี้ในบ้านเราไม่ได้รับความนิยมเท่าใดนัก สาเหตุอาจเป็นเพราะทรวดทรงที่ไม่สวยงามเท่าปลาทองหัวสิงห์สายพันธุ์ที่มีวุ้นดกหนา ขณะเดียวกันก็เป็นปลาที่แพร่พันธุ์ได้ยากมาก และส่วนมากลูกปลาที่เพาะได้ก็จะพิการเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงทำให้ปลาชนิดนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมจากนักเพาะพันธุ์ปลาทองมืออาชีพเช่นกันเพราะเพาะแล้วไม่ค่อยคุ้ม

ปลาทองชูบุงกิง



ราคา : 500 - 2000 บาท
ปลาทองชูบุงกิง (SHUBUNKIN)
มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษอยู่ด้วยกันหลายชื่อ อาทิเช่น SPECKLED GOLDFISH, HARLEQUIN GOLDFISH, VERMILION GOLDFISH และ RED BROCADE เป็นปลาที่เพิ่งเกิดขึ้นในต้นศตวรรษที่ 20 นี้ โดยนักเพาะพันธุ์ปลาทองจากนครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น คือ นาย Kichigoro Akiyama โดยนำปลาทอง 3 ชนิด คือ ปลาทองพันธุ์ตาโปน 3 สี (5สี) (Calico Telescope Eye) มาผสมข้ามพันธุ์กับปลาทองพันธุ์วะกิง (Japanese Golden) ซึ่งมีหางเดี่ยว หรือหางซิว (Single Tial) ต่อมาก็นำมาผสมกับปลาทองพันธุ์ Scarlet Crucian (Hibuna) จากนั้นเขาก็ได้คัดเลือกลูกปลาขึ้นมาราว 14-15 ตัว จากจำนวนปลาทั้งสิ้น 2หมื่นกว่าฟอง ซึ่งลูกปลาที่เขาเพาะพันธุ์ขึ้นได้มีหางยาวมีเกล็ดบางใส และมีสีหลากหลายสีอยู่ในตัวเดียวกัน ซึ่งนาย Shinnosuke Matsubara ได้ขนานนามให้ปลาตัวนี้ว่า “Red Marked Calico” หรือ "Shubunkin"

ปลาทองพันธุ์โตซากิ้น



ราคา 3000 - 5000 บาท
ปลาทองพันธุ์โตซากิ้น (TOSAKIN)
ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกชื่อสั้นๆว่า "TOSA" เป็นปลาทองที่ถือกำเนิดขึ้นมาในราวปี ค.ศ. 1845 ณ เมือง KOCHI ในประเทศญี่ปุ่นโดย นาย KATSUSABURO SUGA ได้นำปลาทองหัวสิงห์สายพันธุ์โอซาก้ามาผสมข้ามพันธุ์กับปลาทองริวกิ้น ซึ่งเขาได้พบว่าลูกปลาทองที่เพาะพันธุ์ขึ้นได้มีบางส่วนมีลักษณะผ่าเหล่าไปจากลูกปลาทองตัวอื่นๆ โดยลูกปลาที่มีลักษณะผ่าเหล่าจะมีส่วนหางที่มีลักษณะแตกต่างไปจากปลาทองทั่วๆไป อย่างแทบไม่น่าเชื่อ เพราะครีบของปลาทองเหล่านั้นแทนที่จะตั้งชันหรือเบ่งบานเหมือนปลาพ่อแม่พันธุ์ แต่กลับมีปลายหางทั้งสองลักษณะรวมอยู่ในตัวเดียวกัน นั่นคือ ครีบหางด้านข้างทั้งสองข้างจะตั้งชันและยื่นชี้ไปทางด้านหน้าของลำตัว ส่วนครีบหางตรงกลางกลับหักมุมลงด้านล่าง ช่วยให้ครีบหางของปลาเกิดเป็นรอนคล้ายรูปคลื่น โดยเฉพาะหางของปลามีลักษณะบาน

ปลาทองรันชู




ราคา : 800 - 2500 บาท
ปลาทองรันชู
ลักษณะเด่นของปลาชนิดนี้คือ การเรียงแถวของเกล็ด และ ความสวยงามของสีสันลวดลาย รูปโฉมและการว่ายของปลาตัวนั้นต้องดูมีสง่าราศี จะมีสีแดงปรากฏเด่นอยู่ที่ส่วนหัว ซึ่งเป็นสีขาวที่โคนหางเป็นสีขาวคั่นกลาง

ปลาทองพันธุ์มัว



ราคา : 500 - 2000 บาท
ปลาทองพันธุ์มัว(Moor)
ปลาทองพันธุ์อาจเรียก Black Moor ชาวญีปุ่นเรียก Kuro Demekin แปลว่า"ตาโปนสีดำ" สำหรับเมืองไทยเป็นที่รู้จักในชื่อ ปลาทองพันธุ์ "เล่ห์" หรือ "รักเล่ห์" เป็นปลาพวกมีเกล็ด ลักษณะเด่นคือ มีลำตัวและครีบทั้งหมดสีดำหนิท ปกติไม่เปลี่ยนสีเลย มีต่าโปนออกมาเช่นกัน มีลำตัวนุ่มนิ่ม ครีบหางใหญ่บางคนเรียกว่า"สุภาพสตรีในชุดดำ"
จัดว่าเป็นปลาที่สวยงามและน่ารัก แต่ในการเลี่้ยงดูแล้วจำเป็นจะต้องคอยเอาใจใส่ดูแลให้ดีอยู่เสมอ เพราะตามลำตัวจะมีฝ้าขาว ซึ่งเกิดจากเชื้อรา"ตาหมอก"

ปลาทองริวกิ้น



ราคา 800 - 2000 บาท
ปลาทองริวกิ้น
ลักษณะทั่วไปของสาย พันธุ์นี้คือ ลำตัวค่อนข้างกลมและสั้นหางจะบานและยาวเป็นพิเศษ เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดราว 30 ซม. ปลาทองพันธุ์นี้จัดว่าเป็นปลาทองที่ค่อนข้างเปราะบางและเลี้ยงยาก ไม่เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่ ลักษณะของปลาทองริวกิ้นที่ดีส่วนหางควรมีความยาวมากกว่าลำตัว ครีบทุกครีบต้องบานและไม่คดงอหรือหัก สีเข้ม เกร็ดเป็นมันวาว

ปลาทองสิงห์ตากลับ



ราคา 500 - 2000 บาท
ปลาทองสิงห์ตากลับ (Celestial Eye Goldfish)
ปลาทองสิงห์ตากลับ เป็นปลาทองที่มีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศจีน ชาวจีนเรียกว่าโชเตนงัน (Chotengan) ซึ่งมีความหมายว่า ปลาตาดูฟ้าดูดาว หรือตามุ่งสวรรค์ ญี่ปุ่นเรียกปลาชนิดนี้ว่า เดเมรันชู (Deme- ranchu) ลักษณะเด่นคือ มีตาหงายกลับขึ้นข้างบน ผิดจากปลาทองชนิดอื่นๆ ตาใหญ่สดใสทั้งสองข้าง ส่วนหัวไม่มีวุ้นหรือมีเคลือบเล็กน้อย ไม่มีครีบหลัง ลำตัวยาว หลังตรง หรือโค้งลาดเล็กน้อย เกร็ดเป็นเงางาม เรียงเป็นระเบียบ ครีบหางยาว ปลายหางเสมอ แนวเดียวกับสันหลัง หรือสูงกว่า สีเข้มสดใส มีทุกสี ครีบต่างๆ เสมอกันทั้งซ้าย และขวา ไม่พับหรือบิดงอ

ปลาทองสิงห์ลูกโป่ง



ราคา : 500 - 3000 บาท
ปลาทองสิงห์ลูกโป่ง (Bubble Eye Goldfish)
ลักษณะเด่นของปลาชนิดนี้คือ บริเวณใต้ตาจะมีถุงโป่งออกมาลักษณะคล้ายลูกโป่งมีน้ำใสอยู่ด้านใน และถือกันว่าถุงลูกโป่งยิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งเป็น ลักษณะที่ดี โดยที่ถุงทั้งสองข้างจะต้องมีขนาดที่เท่ากัน ลำตัวยาว ด้านซ้ายขวาเสมอกัน หลังตรงหรือโค้งลาดเล็กน้อย ครีบหางยาว หางราด ปลายหางเสมอแนวเดียวหรือสูงกว่าสันหลัง สีเข้มสดใสมีทุกสี โดยสีที่พบมาก ได้แก่ สีแดง ส้ม หรือสีผสม ระหว่างสีแดงและสีขาว หรือส้มและขาว จัดเป็นปลาที่เลี้ยงยากและเพาะพันธุ์ได้ยาก ขนาดโตเต็มที่ยาวประมาณ 20-25 เซนติเมตร (~ 9 นิ้ว)

ปลาทองสิงห์ดำตามืด



ราคา : 2000 - 5000 บาท
ปลาทองสิงห์ดำตามิด (Black Lionhead, Siamese Lionhead)
เป็นปลาที่ถูกพัฒนา และคัดพันธุ์ได้ในประเทศไทย มีลักษณะเด่นตรงที่ความดำสนิทของสี ลักษณะของหัวมีทั้งแบบวุ้นเหมือนสิงห์จีน วุ้นฟู กับวุ้นหัวสิงห์ญี่ปุ่น หรือวุ้นแบบรันชู มีลักษณะวุ้นแน่นเหมือนมีเขี้ยวยื่นออกมา วุ้นจะขึ้นคลุมทุกๆ ส่วนบนหัวแม้กระทั่งส่วนของตาจะต้องปิดตาของปลาจนมิด ครีบหางสั้นมีทั้ง หางสาม หางสี่ ปลายหางเสมอแนวแนวกับสันหลังของปลา ทุกส่วนของลำตัวต้องดำสนิท ยิ่งดำยิ่งดี ครีบทุกครีบควรมีความเสมอกัน ไม่พับหรือบิดงอ ขอแนะนำในการเลือกซื้อปลาตอนอายุน้อย ต้องเลือกปลาที่มีใต้ท้องสีดำสนิทถึงจะแน่ใจได้ว่าตอนโตมาสีจะไม่ลอก

ปลาทองหัวสิงห์จีน



ราคา : 1200 - 4000 บาท
ปลาทองสิงห์จีน (Chinese Lionhead)
ปลาทองสิงห์จีนเป็นปลาทองหัวสิงห์ประเภทแรกที่จะพูดถึง เป็นสายพันธุ์ปลาทองที่ถูกพัฒนามานานกว่า 600 ปี โดยประเทศจีนเป็นประเภทแรกที่สามารถเพาะพันธุ์ปลาทองสายพันธุ์นี้ ชาวตะวันตกเรียกปลาทองสายพันธุ์นี้ว่า Lionhead ส่วนในประเทศไทยเรียกว่า ปลาทองหัวสิงห์จีน (Chinese Lionhead) ถ้าพิจารณาจากลักษณะรูปร่างจะเห็นได้ว่า ปลาทองสายพันธุ์นี้ จะมีลักษณะหัวที่มีวุ้นฟูขนาดใหญ่ โดยจะเป็นได้ทั้งเม็ดละเอียด หรือเม็ดใหญ่สม่ำเสมอกัน (ถ้าจะให้ดีควรเป็นเม็ดละเอียด)